...ยินดีต้อนรับเข้าสู่ Weblog ของ ครู "hall"ด้วยความยินดีค่ะ

วิธีระบบ

...มารู้จักกันหน่อยนะค่ะ...

.........(^-^) ... สวัสดีค่ะ...ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บบล็อก ของครูฮอลล์ค่ะ
..............ตอนนี้ความรักของใครกำลังเป็นสีชมพู และใครอยากเข้ามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์สามารถแวะเข้ามาคุยและมาชมบล็อกกันได้นะค่ะ
.........ซึ่งครูฮอลล์ได้มีบทกลอนมาฝากให้อ่านกันนะค่ะ...

....................ความรัก...จำได้ว่าเป็นสีชมพู
......................ความรัก...รับรู้ด้วยหัวใจ
...................ความรัก...จะมีกี่แสนที่ยิ่งใหญ่
.................คาวมรัก...ได้ฟังเมื่อรัยก็ยังงดงาม
...................ความรัก...มักไม่ต้องมีคำถาม
...........ความรัก...ไม่ต้องใช้คำจำกัดความ...มาปะปน
......................แต่วันนี้ฉันก็แค่แพ้ทาง
..............*-*...............................*-*


slide show

โครงการสอนวิชาภาษาและเทคโนโลยี

.......รหัสวิชาGD ภาษาและเทคโนโลยีสำหรับครู 3 (1-2-3)ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2552อาจารย์ผู้สอน ผศ.วิวรรธน์ จันทร์เทพย์โปรแกรมวิชาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการศึกษาคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
*************************************

.......คำอธิบายรายวิชา (เนื้อหา)ศึกษาและฝึกทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ท และเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อเป็นเครื่องมือสื่อสารและสืบค้นทั้งภาษาไทยและต่างประเทศ ทั้งในด้านการฟัง การพูด การอ่านและการเขียน เพื่อการสื่อความหมาย โดยเน้นกระบวนการ ทักษะสัมพันธ์ทางภาษา ตลอดจนศึกษาและฝึกการตีความ การขยายความ การสรุปความ การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล รวมทั้งการนำเสนองานทางวิชาการหัวข้อที่จะเรียนกัน

.......จุดประสงค์
.........เมื่อผู้เรียนศึกษาเนื้อหาและกิจกรรมเสร็จสิ้นแล้วจะมีพฤติกรรมและความสามารถดังต่อไปนี้
.........1. อธิบายความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาและเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้สำหรับครูได้
.........2. อธิบายและปฏิบัติการเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และอินเตอร์เน็ต สำหรับครูได้
.........3. สามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสืบค้นข้อมูลทางการศึกษาเนื้อหา

หน่วยที่ 1........เทคโนโลยีพื้นเพื่อการศึกษา เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้สำหรับครู รายละเอียดเพิ่มเติม
หน่วยที่ 2........คอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา รายละเอียดเพิ่มเติม
หน่วยที่ 3........อินเตอร์เน็ตเพื่อการศึกษาและสืบค้น รายละเอียดเพิ่มเติม
หน่วยที่ 4........เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการสื่อสารและสืบค้นข้อมูล รายละเอียดเพิ่มเติม
หน่วยที่ 5........ฝึกปฏิบัติการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการสื่อสารและสืบค้นข้อมูล รายละเอียดเพิ่มเติม

ป.บัณฑิต2552

........ป.บัณฑิตวิชาชีพครูรุ่น12 ภาคเรียนที่ 1/2552 จำนวน 94 คน กำลังเรียนวิชาภาษาและเทคโนโลยีเพื่อการสืบค้น นักศึกษาสามารถใช้ภาษาไทย ภาษาต่างประเทศ และเทคโนโลยีเพื่อการสืบค้นและการแสวงหาความรู้ตลอดระยะเวลาเรียนและรวมถึงการนำไปประยุกต์ใช้กับงานประจำและชีวิตจริงของแต่ละคน
........การเรียนวิชานี้นักศึกษาต้องเตรียมตัวมาก่อนในบางเรื่อง ได้แก่ การสมัคร Gmail เพื่อการสมัครใช้งานในการสร้างเว็บบล็อก (weblog) เพราะนักศึกษาทุกคนต้องใช้เว้บบล็อกเป็นเครื่องสำคัญในการบันทึกข้อมูลความรู้ต่าง ๆ ที่เรียนในวิชานี้ นอกจากนี้ยังรวมถึงงานที่ได้รับมอบหมายจากผู้สอน ซึ่งผู้สอนสามารถตรวจสอบการปฏิบัติงานของผู้เรียนได้ตลอดเวลา
........ดังนั้นผู้เรียนแต่ละคนต้องสร้างเว็บบล็อกของตนเอง ซึ่งในเว็บบล็อกต้องประกอบไปด้วยส่งต่อไปนี้

......1. การแนะนำเว็บบล็อก
......2. แผนการสอน
......3. เนื้อหาบทเรียนโดยย่อ ทุกบท
......4. การลิงค์เนื้อหาโดยละเอียดทุกบท
......5. การตกแต่งเว็บบล็อกด้วยองค์ประกอบต่อไปนี้
............5.1 สไลด์
............5.2 ภาพเคลื่อนไหว
............5.3 นาฬิกา
............5.4 ตัวเลขนับจำนวนผู้เข้าชม
............5.5 การตกแต่งหัวเว็บบล็อกด้วย ภาพจากโฟโต้ช็อบ
.......6. การแสดงความคิดเห็นจากผู้ชมอย่างน้อย 3 ความคิดเห็น

วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2552

บัญญัติ 10 ประการ สำหรับวัยรุ่นที่พึงปฏิบัติต่อพ่อ แม่

.........พ่อ – แม่ เป็นผู้ให้กำเนิด ให้ชีวิต ฟูมฟักเลี้ยงดู อบรม สั่งสอนลูกให้เป็นคนดี ให้วิชาความรู้ การศึกษาเล่าเรียน เพื่อที่ลูกจะสามารถไปประกอบสัมมาอาชีพเลี้ยงดูตนเองได้ พ่อ – แม่จึงเป็นปูชนียบุคคลที่สูงที่สุดในชีวิตของลูก ลองคิดดูซิว่า ถ้าเราเกิดมาแล้วไม่มีพ่อ- แม่ หรือพ่อ-แม่ตายจากเราไปตั้งแต่เรายังเล็กอยู่ เราจะรู้สึกอย่างไร ความรู้สึกที่กำพร้าพ่อ – แม่นั้นเป็นความรู้สึกที่แสนจะรันทดใจอย่างยิ่ง เราจะรู้สึกโดดเดี่ยว อ้างว้างเดียวดาย จะหันไปพึ่งใคร ปรึกษาใครก็ไม่เหมือนพ่อ – แม่ของเรา เห็นเพื่อนๆ เขามีพ่อ – แม่กันก็รู้สึกเศร้าใจ “ทำไมต้องเป็นเรานะ” คิดไปต่างๆ นานา น้อยใจในชะตาชีวิต
สำหรับผู้ที่โชคดีมีพ่อ – แม่ให้ความรัก ความอบอุ่น ได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดี ก็ไม่ควรประมาท โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน สักวันหนึ่งท่านก็ต้องจากเราไป ซึ่งเป็นกฎของธรรมชาติ ทุกชีวิตต้องเป็นเช่นนี้ เวลาในโลกนี้จึงมีไม่มากและมีจำกัด ขณะที่ท่านมีชีวิตอยู่ จงทำตัวให้เป็นเด็กดี หมั่นศึกษาเล่าเรียน ไม่สร้างปัญหา เลือกคบเพื่อนที่เป็นกัลยาณมิตร ชักจูงไปในทางที่ดี ปรนนิบัติด้วยความกตัญญูรู้คุณ จึงจะขึ้นชื่อได้ว่าเป็น ลูกแก้ว เป็นลูกยอดกตัญญู แล้วเราจะรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ทดแทนพระคุณอันยิ่งใหญ่ของพ่อ–แม่
..........บัญญัติ 10 ประการ สำหรับลูกที่กำลังอยู่ในวัยรุ่นที่พึงปฏิบัติต่อพ่อ – แม่ เพื่อลดการขัดแย้ง สร้างความไว้วางใจจากพ่อ-แม่ และทำให้พ่อ-แม่มีความสุข
...........1. ถ้าต้องการให้พ่อ – แม่ให้อิสระภาพ ไม่ห้ามโน่น ห้ามนี่ ห้ามไป …..ห้ามทำ……ห้าม ไปหมด ก็ต้องพยายามทำตัวให้พ่อ – แม่ไว้วางใจและเชื่อใจว่าลูกจะไม่เถลไถลออกนอกลู่นอกทาง คบเพื่อนไม่ดี เช่น ถ้าอยากให้พ่อ – แม่อนุญาตให้ไปเที่ยวกลางคืนกับเพื่อน ก็ต้องประพฤติตัวให้ดี กลับบ้านตรงเวลาตามที่ได้ตกลงกับพ่อ – แม่ไว้
...........2. ถ้าอยากเป็นตัวของตัวเอง คิดเอง ทำเอง พ่อ – แม่รับฟังและเห็นด้วย ก็ควรพูดด้วย เหตุและผล ด้วยวิธีการพูดที่นิ่มนวล ไม่ใช้อารมณ์เอะอะโวยวาย ตีโพยตีพาย หรือ พูดเท็จโกหกพ่อ- แม่
...........3. เมื่อต้องการให้พ่อ – แม่เข้าใจเรา เราต้องแสดงความรู้สึกของตนออกมาอย่างเปิดเผย จริงใจ กล้าสู้ความจริง กล้าขอคำปรึกษาจากพ่อ – แม่ อย่าเก็บงำปัญหา ความรู้สึกไว้ตามลำพังแต่ผู้เดียว
...........4. เด็กวัยรุ่นที่ดี ต้องรู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา หัดเข้าใจในความรู้สึกของพ่อ – แม่บ้าง ให้ลองคิดย้อนกลับไปว่าถ้าเราเป็นพ่อ – แม่เองแล้วมีลูกทำแบบนี้บ้าง เราจะรู้สึกอย่างไร?
...........5. เมื่อพ่อ – แม่พูดบ่นจู้จี้ ซึ่งเป็นวิธีการหนึ่งที่บอกให้รู้ถึงความรู้สึก ความรัก ความห่วงใยของพ่อ –แม่ที่มีต่อลูกวัยรุ่นต้องพยายามเข้าใจ ยอมรับและไม่ถือโกรธ ไม่ทำตัวให้พ่อ–แม่ต้องเป็นห่วงเป็นใย กังวลใจ เช่น การคบเพื่อนที่ไม่ดี การเสพสิ่งเสพติดทั้งหลาย เมื่อพ่อ-แม่ผู้เคยอาบน้ำร้อนมาก่อนตักเตือนก็ต้องเชื่อฟัง แล้วคิดอย่างมีเหตุผล ไม่ใช่เอาแต่เถียงข้างๆ คูๆ ไร้เหตุผล
...........6. ถ้าต้องการให้พ่อ – แม่ปฏิบัติต่อเราอย่างเพื่อน เราต้องรู้จักเปิดเผย ไม่ปิดบังเมื่อมีปัญหาต้องระบาย เล่า หรือปรึกษาพ่อ – แม่ เหมือนกับที่เราไปปรึกษาเพื่อนของเรา
...........7. ยามใดที่เกิดปัญหาหรือผิดหวังจากเรื่องนอกบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพื่อน เรื่องการศึกษาเล่าเรียน เรื่องความรัก จงกลับไปหาพ่อ – แม่ เล่าระบายให้ท่านฟัง ตักและอ้อมแขนของท่านพร้อมที่จะโอบอุ้มให้ความรัก ความอบอุ่นเหมือนเช่นตอนที่เรายังเล็กๆ อยู่ คำพูด คำปลอบประโลมของท่านจะช่วยประคับประคองใจเราได้เป็นอย่างดี เราจะเกิดความรู้สึกอบอุ่นใจ หายว้าเหว่ รู้สึกว่ามีที่พึ่ง เกิดความมั่นใจและมีกำลังใจมากขึ้น เห็นแนวทางในการแก้ปัญหาได้สำเร็จ
...........8. เมื่อพ่อ – แม่พูดสอน หรือตำหนิติเตียน ก็ควรนิ่งฟังอย่างตั้งใจ และยอมรับไม่ควรเถียงคอเป็นเอ็นเพราะจะไม่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ควรให้เวลาผ่านพ้นไป ต่างฝ่ายอารมณ์ดีขึ้นแล้วค่อยอธิบายถึงเหตุผลที่ต้องทำเช่นนั้น จะช่วยลดการขัดแย้งและและช่องว่าง ระหว่างวัยได้เป็นอย่างดี
...........9. ควรหาเวลาว่างทำกิจกรรมร่วมกันกับพ่อ –แม่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นการดูทีวี ทำสวน ช่วยงานบ้าน เข้าครัวปรุงอาหาร หรือไปเที่ยวด้วยกัน เพราะกิจกรรมทั้งหลายเหล่านี้จะช่วยสานความสัมพันธ์ ทัศนคติที่ไม่ตรงกันให้เป็นไปในแนวเดียวกันได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะช่วยให้เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกันมากยิ่งขึ้น
...........10. จงแสดงความรัก ความเคารพ ความเอื้ออาทรต่อพ่อ – แม่บ้าง ตัวอย่างเช่น ถ้าท่านไม่สบายก็ควรรินน้ำ เตรียมอาหาร จัดยาให้ท่าน เมื่อถึงวันสำคัญก็ควรแสดงความเคารพ ให้เกียรติท่าน สิ่งใดที่ทำเพื่อท่านได้ก็ควรทำ รวมทั้งการช่วยงานบ้านเพื่อแบ่งเบาภาระของท่าน ท่านก็จะรักและเมตตาเราเพิ่มมากขึ้น
..........ถ้าวัยรุ่นทั้งหลายสามารถปฏิบัติตนได้ตามบัญญัติทั้ง 10 ประการ ที่กล่าวข้างต้นนี้ได้ ก็จะขึ้นชื่อว่าเป็นลูกที่มีความกตัญญูกตเวที มีความเคารพพ่อ – แม่ ซึ่งเป็นเสมือนพระในบ้านที่ควรเคารพบูชาเป็นอันดับแรก ถือได้ว่าเป็นมงคลอันสูงสุดของชีวิต อันจะนำมาซึ่งความสุข ความเจริญรุ่งเรือง ความเป็นศิริมงคลมาสู่ตนเอง
..........โปรดอย่าลืมว่า…การทำบุญอะไรก็ไม่ยิ่งใหญ่เท่ากับการทำบุญกับพระในบ้าน นั่นก็คือพ่อ-แม่ของเรานั่นเอง

วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2552

อุปสรรคของชีวิต

เมื่อชีวิตเผชิญอุปสรรค
ต้องรู้จักว่านั่นเป็นธรรมดาของชีวิต
อย่าหวั่นไหว เมื่อเจออุปสรรค
เพราะอุปสรรคช่วยสร้างประสิทธิภาพ
ปัจจัยของความสำเร็จอันน่าภาคภูมิใจ
ไม่มีอะไรเกินกว่าอุปสรรค
ผู้ที่ไม่เคยต่อสู้กับอุปสรรค
ไฉนจะรู้จักความสามารถที่แท้จริงของตนได้
ก้อนหินน้อยขวางทางข้ามได้ก็ข้ามไป
ก้อนหินใหญ่ขวางทางเขยื้อนได้เขยื้อนไป
ภูเขาใหญ่ขวางทาง ถ้าต้องไปก็อ้อมไป
ผู้ที่สู้กับอุปสรรคที่ต้องหลีก
และผู้ท้อแท้ต่ออุปสรรคที่ต้องสู้
คือผู้หันหลังให้กับความจริง
และปิดหนทางแห่งความชอบธรรมเสียสิ้น

"ที่เรามีปัญหา
แล้วเป็นทุกข์
ก็เพราะเรา
มัวคิดว่ามันเป็นปัญหา
มากกว่าคิดถึงการลงมือแก้ไข"

เป้าหมายของชีวิต

โดยธรรมชาติแล้ว
ชีวิตย่อมมีเป้าหมายของชีวิตอยู่เอง
ครั้นเมื่อมนุษย์ช่างคิด ช่างฝัน
เขาจึงได้รังสรรค์เป้าหมายขึ้นใหม่
แล้วยอมเป็นทาสของเป้าหมายนั้นโดยดุษฏี

เป้าหมายของชีวิตที่มนุษย์คิดขึ้นนั้น
ไม่อาจนำมาซึ่งความเกษมสำราญที่แท้จริง
ทั้งยังอาจเป็นเหตุแห่งความทุกข์ยากไม่รู้จบสิ้น

เป้าหมายของการกระทำนั้นต้องมีอยู่
แต่ต้องไม่งมงายยึดมั่นเกินไป
เพราะความงมงายยึดมั่นเกินไป
ทำลายความสดชื่นมั่นคงในการดำเนินชีวิต

ดำรงจิตใจให้มั่นคง เริงรื่น ชื่นบาน
และเกษมสำราญกับการช่วยเหลือสรรพชีวิตเถิด
ชีวิตเฉพาะหน้าเช่นนั้น นั่นเอง
ที่ดำรงอยู่แล้วในเป้าหมายของชีวิตที่แท้

"จงเป็นในสิ่งที่ต้องเป็นให้เป็นสุข
อย่าพยายามเป็นให้เป็นทุกข์ใ
นสิ่งที่คิดว่าน่าจะเป็น"